WordPress เป็นเครื่องมือสร้างเว็บไซต์ที่มีความยืดหยุ่นสูง สามารถใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ แต่หลายคนอาจสงสัยว่า WordPress มีกี่ประเภท? และแต่ละประเภทเหมาะกับการใช้งานในรูปแบบไหน บทความนี้จะอธิบายประเภทต่าง ๆ ของ WordPress ที่คุณควรรู้
1. WordPress มีกี่ประเภท
WordPress แบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ที่ผู้ใช้งานต้องเลือกใช้ตามความต้องการ:
2. WordPress.com
WordPress.com เป็นแพลตฟอร์มที่ให้บริการเว็บไซต์แบบครบวงจร โดยไม่ต้องจดทะเบียนโดเมนหรือหาผู้ให้บริการโฮสติ้งเอง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสร้างเว็บไซต์โดยไม่ต้องยุ่งยากกับการติดตั้งและการจัดการเซิร์ฟเวอร์
ข้อดี:
- ใช้งานง่าย: ไม่ต้องติดตั้งอะไร สามารถเริ่มใช้งานได้ทันที
- โฮสต์ฟรี: ให้บริการโฮสติ้งฟรี แต่จะมีข้อจำกัดในการใช้งาน เช่น ไม่มีการเข้าถึงธีมและปลั๊กอินที่สามารถปรับแต่งได้
- ค่าบริการ: มีแผนบริการที่ต้องเสียค่าใช้จ่ายสำหรับฟีเจอร์ที่ครบครันมากขึ้น
ข้อเสีย:
- ข้อจำกัดในการปรับแต่ง: ไม่สามารถติดตั้งปลั๊กอินหรือธีมที่ต้องการ
- โฆษณา: จะแสดงโฆษณาของ WordPress บนเว็บไซต์หากใช้แผนบริการฟรี
3. WordPress.org
WordPress.org คือ ระบบจัดการเนื้อหาหรือ CMS (Content Management System) ที่สามารถดาวน์โหลดและติดตั้งบนโฮสติ้งของคุณเอง นี่คือ WordPress เวอร์ชันเต็มที่ให้คุณควบคุมทุกอย่างได้ เช่น การติดตั้งธีม ปลั๊กอิน และการปรับแต่งโค้ด
ข้อดี:
- การปรับแต่งเต็มรูปแบบ: สามารถติดตั้งปลั๊กอินและธีมต่าง ๆ ได้มากมาย
- ควบคุมเว็บไซต์ได้อย่างสมบูรณ์: คุณสามารถปรับแต่งเว็บไซต์ตามต้องการ
- ไม่จำกัดพื้นที่: ไม่จำกัดจำนวนโพสต์หรือบทความ
ข้อเสีย:
- ต้องดูแลโฮสติ้ง: คุณต้องหาผู้ให้บริการโฮสติ้งและติดตั้ง WordPress เอง
- ต้องดูแลความปลอดภัย: ต้องอัปเดต WordPress และปลั๊กอินต่าง ๆ เอง
4. สรุปความแตกต่างระหว่าง WordPress.com และ WordPress.org
ลักษณะ | WordPress.com | WordPress.org |
---|---|---|
การติดตั้ง | ติดตั้งและตั้งค่าอัตโนมัติ | ต้องติดตั้งเองบนโฮสติ้ง |
ค่าใช้จ่าย | มีแผนฟรีและแผนเสียค่าใช้จ่าย | ฟรี แต่ต้องเสียค่าโฮสติ้ง |
ความยืดหยุ่น | จำกัดการปรับแต่ง | ปรับแต่งได้เต็มที่ |
โฆษณา | มีโฆษณาบนเว็บไซต์ | ไม่มีโฆษณา |
การจัดการเว็บไซต์ | WordPress ดูแลการบำรุงรักษา | คุณต้องดูแลทุกอย่างเอง |
5. คำแนะนำในการเลือกประเภทของ WordPress
- เหมาะสำหรับมือใหม่:
หากคุณไม่ต้องการยุ่งยากกับการติดตั้งหรือการดูแลโฮสติ้ง WordPress.com อาจเป็นตัวเลือกที่ดี เพราะเริ่มต้นได้ง่ายและไม่ต้องกังวลเรื่องการบำรุงรักษา - เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความยืดหยุ่น:
หากคุณต้องการควบคุมเว็บไซต์ของคุณเองและมีความสามารถในการปรับแต่ง WordPress.org คือคำตอบที่ดีที่สุด