วิธีใช้รูปภาพ WebP ใน WordPress

คุณต้องการใช้ภาพ WebP ใน WordPress หรือไม่?
รูปภาพ WebP เป็นรูปแบบรูปภาพสมัยใหม่ที่ให้การบีบอัดรูปภาพที่ดีขึ้นโดยการลดขนาดไฟล์ ทำให้เว็บไซต์ของคุณโหลดเร็วขึ้นและประหยัด Bandwidth

ในบทความนี้ เราจะแสดงวิธีใช้รูปภาพ WebP ใน WordPress อย่างง่ายดาย

WebP คืออะไรและเหตุใดจึงต้องใช้รูปภาพ WebP ใน WordPress?

WebP เป็นรูปแบบไฟล์ใหม่สำหรับรูปภาพที่จะใช้บนเว็บ การใช้รูปแบบภาพ WebP รูปภาพของคุณจะไม่ขนาดไฟล์เล็กกว่าภาพสกุล PNG และ JPEG ถึง 25-34% โดยไม่ทำให้คุณภาพของรูปภาพลดลง

หากรูปภาพทำให้เว็บไซต์ของคุณโหลดช้า การแปลงเป็นรูปแบบ WebP สามารถปรับปรุงคะแนนการทดสอบความเร็วในการโหลดหน้าเว็บของคุณได้ หากคุณต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการบีบอัดรูปภาพ โปรดดูคู่มือการปรับปรุงรูปภาพ WordPress

เนื่องจาก WebP เป็นรูปแบบไฟล์ใหม่ เบราว์เซอร์ทั้งหมดจึงยังไม่รองรับ อย่างไรก็ตาม เบราว์เซอร์ที่ทันสมัยส่วนใหญ่ เช่น Google Chrome, Firefox และ Microsoft Edge รองรับภาพ WebP

คุณควรใช้ภาพ WebP ใน WordPress หรือไม่?

รูปภาพ WebP สามารถช่วยให้คุณเพิ่มความเร็วให้กับเว็บไซต์ WordPress ของคุณได้ แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดที่แนะนำคือใช้ร่วมกับปลั๊กอินแคช WordPress, CDN และอื่นๆ

ตั้งแต่ WordPress 5.8, WordPress ได้รองรับภาพ WebP เป็นค่าเริ่มต้น นั่นหมายความว่าคุณสามารถบันทึกและอัปโหลดภาพ WebP ของคุณไปยังเว็บไซต์ WordPress ได้โดยไม่ต้องใช้ปลั๊กอิน

แต่คุณยังอาจต้องการใช้ปลั๊กอินบีบอัดรูปภาพบนไซต์ WordPress หากผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์คุณ ใช้เบราว์เซอร์ที่ไม่รองรับ คุณควรพิจารณาใช้ปลั๊กอินบีบอัดรูปภาพ

ปลั๊กอินบีบอัดรูปภาพสามารถแปลงรูปภาพที่มีอยู่ของคุณให้อยู่ในรูปแบบ WebP และแสดงรูปภาพ JPEG หรือ PNG เป็นตัวเลือกสำรองในเบราว์เซอร์ที่ยังไม่รองรับ WebP หากเว็บของคุณใช้รูปภาพจำนวนมาก และทำให้บล็อก WordPress ของคุณช้าลง คุณควรพิจารณาใช้รูปภาพ WebP นี่คือวิธีการใช้ภาพ WebP ใน WordPress ด้วย Plugin Imagify

วิธีใช้รูปภาพ WebP ใน WordPress โดยใช้ปลั๊กอิน Imagify

Imagify เป็นปลั๊กอินเพิ่มประสิทธิภาพรูปภาพ WordPress ที่สร้างโดยทีมงาน WP Rocket ซึ่งเป็นปลั๊กอินแคช WordPress ที่ดีที่สุด ช่วยให้คุณปรับแต่งและแปลงรูปภาพเป็นรูปแบบภาพ WebP ได้อย่างง่ายดาย

สิ่งแรกที่คุณต้องทำคือติดตั้งและเปิดใช้งานปลั๊กอิน Imagify สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดดูคำแนะนำทีละขั้นตอนเกี่ยวกับวิธีการติดตั้งปลั๊กอิน WordPress

เมื่อเปิดใช้งาน คุณต้องไปที่หน้าการตั้งค่า » Imagify เพื่อกำหนดการตั้งค่าปลั๊กอิน จากนั้น คลิกที่ปุ่ม ‘CREATE A FREE API KEY’ เพื่อดำเนินการต่อ

ระบบจะขอให้คุณป้อนที่อยู่อีเมลธุรกิจหลังจากนั้น คุณสามารถตรวจสอบกล่องจดหมายของคุณเพื่อหาอีเมลที่มีคีย์ API ของคุณ คัดลอกและวางคีย์ในหน้าการตั้งค่าของปลั๊กอินแล้วคลิกปุ่มบันทึกการเปลี่ยนแปลง
ถัดไป คุณต้องเลื่อนลงไปที่ส่วนการเพิ่มประสิทธิภาพ คุณต้องตรวจสอบตัวเลือกถัดจากตัวเลือก ‘สร้างรูปภาพเวอร์ชัน webp’ และ ‘แสดงรูปภาพในรูปแบบ webp บนไซต์’

ด้านล่างนี้ คุณสามารถเลือกวิธีการจัดส่งได้สองวิธีเพื่อแสดงภาพ WebP ใน WordPress วิธีแรกคือวิธี htaccess และวิธีที่สองคือการใช้แท็ก

วิธี htaccess นั้นเร็วกว่า แต่จะไม่ทำงานหากคุณใช้บริการ CDN วิธีการแท็ก ใช้งานได้กับ CDN เช่นกัน แต่อาจทำให้ธีม WordPress บางธีมเสียหายได้คุณสามารถเลือกแบบใดแบบหนึ่งที่เหมาะกับเว็บไซต์ของคุณ หลังจากนั้น คลิกที่ปุ่ม ‘บันทึก & ไปที่เครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพเป็นกลุ่ม’ ที่ด้านล่าง

ซึ่งจะนำคุณไปยังหน้า Media » Bulk Optimization ปลั๊กอินจะเริ่มปรับแต่งภาพ WordPress ทั้งหมดในพื้นหลังโดยอัตโนมัติ

หากคุณมีรูปภาพจำนวนมาก อาจใช้เวลาสักครู่ ไม่ต้องกังวล คุณสามารถปิดเพจแล้วกลับมาเปิดใหม่ได้ในภายหลัง เพราะการปิดหน้าจะไม่หยุดกระบวนการปรับรูปภาพให้เหมาะสม

การทดสอบภาพ WebP ของคุณใน WordPress

เมื่อการเพิ่มประสิทธิภาพเสร็จสิ้น คุณสามารถเยี่ยมชมหน้าหรือโพสต์ที่มีภาพสองสามภาพ เลื่อนเมาส์ไปที่รูปภาพแล้วคลิกขวาเพื่อเลือก ‘เปิดรูปภาพในแท็บใหม่’
การดำเนินการนี้จะเปิดรูปภาพในแท็บเบราว์เซอร์ใหม่ และคุณจะเห็นส่วนขยาย .webp ในแถบที่อยู่

เราหวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณเรียนรู้วิธีใช้ภาพ WebP ใน WordPress คุณสามารถศึกษาบทความอื่น ๆ ของเราได้เพิ่มเติม