Canonical URL คืออะไร

Canonical URL คืออะไร? คำตอบและวิธีการใช้งาน

Canonical URL คืออะไร? เมื่อพูดถึงการทำ SEO การจัดการกับปัญหาคอนเทนต์ซ้ำ (Duplicate Content) เป็นสิ่งที่สำคัญมาก เนื่องจากการมีเนื้อหาซ้ำในหลายๆ URL อาจทำให้เครื่องมือค้นหามองว่าเว็บไซต์ของคุณมีคุณภาพต่ำและลดอันดับในการค้นหา ปัญหานี้สามารถแก้ไขได้ด้วยการใช้ Canonical URL ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ช่วยบอกให้เครื่องมือค้นหาเข้าใจว่า URL ไหนควรได้รับการจัดอันดับเป็นเวอร์ชันหลักของหน้าเว็บไซต์นั้นๆ


Canonical URL คืออะไร?

Canonical URL คือ URL ที่ถูกกำหนดให้เป็นต้นฉบับหรือเวอร์ชันหลักของหน้าเว็บไซต์ เมื่อคุณมีหลายหน้าเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาคล้ายกันหรือเหมือนกัน โดยการใช้ Canonical URL เครื่องมือค้นหาจะรู้ว่า URL ไหนเป็น URL ที่ควรได้รับการจัดอันดับในผลลัพธ์การค้นหา

Canonical URL จะถูกตั้งค่าผ่าน Canonical Tag ที่ใช้บอกเครื่องมือค้นหาว่าให้จัดอันดับ URL ที่กำหนดในแท็กเป็น URL หลัก เพื่อหลีกเลี่ยงการจัดอันดับหลายหน้าที่มีเนื้อหาซ้ำกัน ซึ่งอาจกระทบต่อการทำ SEO


ทำไมต้องใช้ Canonical URL?

  1. หลีกเลี่ยงปัญหาคอนเทนต์ซ้ำ
    หากเว็บไซต์ของคุณมีหลาย URL ที่แสดงเนื้อหาคล้ายกัน เช่น หน้าเดียวกันที่สามารถเข้าถึงได้จากหลาย URL หรือเวอร์ชันต่างๆ ของเนื้อหาหน้าเดียวกัน การใช้ Canonical URL จะช่วยบอกเครื่องมือค้นหาว่า URL ไหนควรจะเป็นเวอร์ชันหลัก และควรได้รับการจัดอันดับในผลการค้นหา
  2. เพิ่มประสิทธิภาพ SEO
    การใช้ Canonical URL ช่วยรวมลิงก์ที่ชี้ไปยังหน้าเว็บไซต์เดียวกันไว้ที่ URL หลัก ซึ่งจะช่วยให้หน้าเว็บนั้นได้รับการจัดอันดับที่ดีขึ้น โดยไม่ทำให้คะแนน SEO กระจายไปหลายหน้า
  3. ช่วยรักษาความน่าเชื่อถือ
    หากมีหลาย URL ที่มีเนื้อหาคล้ายกัน Google อาจจะมองว่าเว็บไซต์ของคุณมีเนื้อหาซ้ำซ้อน ซึ่งอาจทำให้ลดความน่าเชื่อถือ การใช้ Canonical URL จะช่วยบอกให้ Google รู้ว่า URL ใดเป็นเวอร์ชันหลัก เพื่อรักษาความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์

วิธีการตั้งค่า Canonical URL

การใช้ Canonical URL นั้นค่อนข้างง่าย เพียงแค่เพิ่มแท็ก <link rel="canonical" href="URL"> ในส่วน <head> ของหน้า HTML ที่คุณต้องการให้เป็นเวอร์ชันหลัก ตัวอย่างเช่น:

<link rel="canonical" href="https://www.example.com/your-page-url" />

ในตัวอย่างข้างต้น แท็ก <link rel="canonical" href="URL"> บอกให้เครื่องมือค้นหาทราบว่า URL ที่คุณระบุใน href คือ URL ที่ควรได้รับการจัดอันดับเป็นเวอร์ชันหลัก


กรณีที่ต้องใช้ Canonical URL

  1. หน้าเดียวกันที่สามารถเข้าถึงได้จากหลาย URL
    ตัวอย่างเช่น:
    • https://www.example.com/page
    • https://www.example.com/page/?utm_source=newsletter
    คุณสามารถใช้ Canonical URL เพื่อบอกเครื่องมือค้นหาว่า URL https://www.example.com/page ควรได้รับการจัดอันดับเป็น URL หลัก.
  2. เว็บไซต์ที่มีหลายภาษา
    หากคุณมีเว็บไซต์ที่รองรับหลายภาษา เช่น:
    • https://www.example.com/en/page
    • https://www.example.com/th/page
    คุณสามารถใช้ Canonical URL เพื่อบอกให้ Google ทราบว่า URL ภาษาอังกฤษเป็นเวอร์ชันหลักของหน้า:htmlCopy code<link rel="canonical" href="https://www.example.com/en/page" />
  3. เนื้อหาที่ซ้ำกันในหลายหน้า
    ในกรณีที่มีหน้าเพจที่มีเนื้อหาคล้ายกัน เช่น หน้าแสดงสินค้าในหลายหมวดหมู่หรือหลายเวอร์ชันของหน้าเดียวกัน การใช้ Canonical URL ช่วยให้เครื่องมือค้นหาทราบว่า URL ไหนควรได้รับการจัดอันดับเป็นหลัก.

ข้อควรระวังในการใช้ Canonical URL

  • ตรวจสอบ URL ให้ถูกต้อง
    หากคุณใช้ URL ที่ผิดในการตั้งค่า Canonical URL จะทำให้เครื่องมือค้นหาทำงานผิดพลาด และอาจส่งผลให้การจัดอันดับของเว็บไซต์ไม่ดีขึ้น
  • ใช้ในกรณีที่เหมาะสม
    อย่าใช้ Canonical URL ในกรณีที่เว็บไซต์ของคุณมีเนื้อหาต่างกัน และไม่ควรนำไปใช้ในกรณีที่เป็นเนื้อหาต่างประเภทหรือหมวดหมู่ที่ไม่เกี่ยวข้องกัน
  • ตรวจสอบผลลัพธ์ใน Google Search Console
    หลังจากที่ตั้งค่า Canonical URL แล้ว ควรตรวจสอบผ่าน Google Search Console ว่าเครื่องมือค้นหาจัดการกับการตั้งค่านี้ได้อย่างถูกต้องหรือไม่

สรุป Canonical URL คืออะไร?

การใช้ Canonical URL เป็นการตั้งค่า SEO ที่สำคัญที่จะช่วยแก้ปัญหาคอนเทนต์ซ้ำ และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดอันดับเว็บไซต์ของคุณใน Google โดยการใช้แท็ก Canonical เพื่อบอกเครื่องมือค้นหาว่าหน้าไหนเป็นเวอร์ชันหลักที่ควรได้รับการจัดอันดับ การตั้งค่า Canonical URL อย่างถูกต้องจะช่วยรักษาคุณภาพของเว็บไซต์ และเพิ่มโอกาสในการติดอันดับในผลการค้นหาของ Google.

หากคุณต้องการเรียนรู้การใช้ Canonical URL และเทคนิคอื่นๆ สำหรับการทำ SEO อย่างมืออาชีพ สามารถเข้าร่วม คอร์ส SEO ของเราเพื่อเพิ่มทักษะและความรู้ด้าน SEO ของคุณ!

จองคอร์สเรียน LINE ICON